ราคาทอง ช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบ มีปัจจัยบวกจากเงินปอนด์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังนางเทเรซา เมย์ นายกฯอังกฤษรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจภายในพรรคอนุรักษ์นิยม โดยเธอจะสามารถดํารงตําแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไปได้อีกอย่างน้อย 1 ปี เพราะตามกฎของพรรคแล้ว การลงมติไม่ไว้วางใจสามารถทําได้เพียงปี ละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ นางเทเรซา เมย์ กล่าวหลังจากทราบผลคะแนนว่า จะเดินหน้าผลักดันกระบวนการ Brexit และจะกลับไปเจรจากับ EU เกี่ยวกับข้อตกลงอีกครั้งในวันนี้ (13 ธ.ค.) นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้น หลังนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลีเสนอลดเป้าหมายยอดขาดดุลงบประมาณปี หน้าลงสู่ระดับ 2.04% ของจีดีพี ลดลงจากเดิมวางเป้าขาดดุลไว้ที่ 2.4%ของจีดีพี ส่งผลให้โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุว่า มีความคืบหน้าที่ดีเกิดขึ้น โดย EC จะประเมินข้อเสนอที่ได้รับในช่วงบ่ายวันนี้
อย่างไรก็ตามราคาทองคําอาจปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจํากัดเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)และแถลงการณ์ประธานอีซีบีในวันนี้ หากส่งสัญญาณใช้นโยบายเชิงผ่อนคลายต่อไปอาจกลับมากดดันยูโรและทองคํา ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคํายังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แสดงว่าเป็ นเพียงแรงดีดตัวขึ้นระยะสั้น และอาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงโดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,236-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง จึงแนะนํากลยุทธ์การลงทุนในกรอบราคา โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคําอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,236-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทํากําไรหากราคาทองคําไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์